ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ toppai.blogspot.com

ช่องยูทูปครอบครัวท็อป

วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ความรู้คอมเรื่องขนาด dvd

แผ่น DVD นั้นแบ่งตามนี้ได้ 5 แบบ
1. singleside single layer ความจุ 4.7 GB นิยมเรียก DVD 5
2.singleside dual layer ความจุ 8.4 GB นิยมเรียก DVD 9
3.dualside singlelayer ความจุ 9.4 GB นิยมเรียก DVD 10
4.dualside single+dual layer ความจุ 13.1 GB นิยมเรียก DVD 14
5.dualside duallayer ความจุ 16.8 GB นิยมเรียก DVD 18

ที่มา http://www.com-th.net/webboard/index.php?topic=82761.0

วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

นับถอยหลัง

หลังจากไม่ได้เจอกันนาน
ก็เริ่มนับถอยหลังได้เลย
กับช่วงเวลาที่รอคอยมาแสนนาน

วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

20 ต.ค.2553

ผ่านมาวันนี้ วันที่ 4 ของการสอบ นักธรรมตรีสนามหลวง แต่สอบที่วัดสำโรง
กว่าจะผ่านไปแต่ละวัน ช่างแลเหนื่อยจังเลย อ่านหนังสือเยอะอ่ะ อยากให้แบบว่า
เต็มๆ ที่ดูว่าจะได้เยอะมั่ย แข่งกับตัวเอง ไม่เคยสอบนานแล้วก็งี้อ่ะ ไม่ค่อยจะฟิต
แต่ก็น่าพอใจอยู่ เอาพอผ่านแหล่ะ หวังว่าจะได้ใบไปเป็นที่ระลึกในการบวชอ่ะจะได้
ไม่น้อยหน้า ระดับ อาๆ ที่เค้าสอบได้กันทั้งนั้น แม้แต่ก๋งยังได้เลย จะให้เสียหน้าได้
ยังไงล่ะ ก็ทำเต็มที่แล้ว เพราะสอบซ้อมก็ได้รางวัลไปแล้ว มาตอนนี้ก็เอาอีกใบ
เผื่อจะได้เป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป รอลุ้นผล 10 กว่า พ.ย.นั่นแหล่ะ แต่กว่า
จะได้ใบถ้าจะสัก กุมพาพันธ์ 54 ตอนนี้คงยังหรอกได้แต่โล่งไปส่วนหนึ่ง ไงก็ต้องรอสอบ
กฏหมายอีก ตอนนี้ก็ใกล้ทำวัตรเย็นอีกแล้ว ทำบุญๆ ให้เยอะ นานๆทีมีโอกาส คว้าให้ได้เยอะ
ใครจะคิดอย่างไรไม่รู้อ่ะ แต่ทำตัวเราให้ดีที่สุด เอาเยี่ยงในสิ่งดีดีได้ แต่อย่าเอาอย่างที่ไม่ดี
วันนี้สอบไป ชั่วโมงกว่าๆ ลงมาก็เจอพระอาจารย์ ก็เลยลองตอบทวน เค้าก็บอก โอเคดีนะ
ค่อยยังชั่วหน่อย แล้วก็ไปฉันน้ำปานะ กับพระต้นกับพระไข่หน่อย ก็กลับมา แล้วก็นอนเล่น
ก็จะหมดเวลาอีกแล้ว พรุ่งนี้คงได้ใช้กำลังกายบ้าง หลังจากใช้กำลังสมองมาแล้ว ได้ผอมๆ
นอนมาหลายวันและ ก็ขอให้วันเดียวเสร็จจะได้พักผ่อน แต่คาดว่าคงตัดเยอะแล้ว ต้องเตรียม
กำลังไว้ แต่นอนไม่เร็วหรอก ต้องทำภารกิจเหมือนในทุกๆวันก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ไปแล้ว...

วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

14 ต.ค. 2553

ผ่านไป 2 วัน หลังจากไปลองสนามทำข้อสอบนักธรรมตรี ที่วัดศีรษะทอง
อ่านปวดหัวมากๆ เลย กะเอาว่าพอสอบผ่านเครียดเพราะไม่เคยสอบนานแล้ว
แล้วก็อ่านหนักๆ จัดไป 2 วัน วันนี้ก็สอบเสร็จสักที ผลปรากฏ ก็สอบผ่าน ค่อยยังชั่ว
มีอวดแม่ อวดคนรู้จักและ ได้รางวัลมาด้วย ตามรูปเลย ก็ดีใจ แล้วก็ต้องอย่าเหลิง
เด๋วสักพักก็คงอ่านต่อ เพราะยังอ่านได้ไม่หมดเล่มเลย คงต้องใช้เวลาอีกหน่อย
วันนี้ก็กลับมาทำวัตรต่อเลย ตอน 5 โมงเย็น แล้วก็ไปเอาเสาขาว กับเหล็กที่ปักธง
เตรียมวันสอบจริงของสนามหลวง ต่อจากนั้นก็เริ่มเหนียวตัวแล้วก็เลยไปสรงน้ำชื่นใจ
แล้วครับ ก็โทรไปบอกที่บ้านแล้ว และก็บอกที่บ้านแฟนแล้วเรียบร้อย วันนี้ก็จะหมดไป
อีกวันนึง อีก 2 วันสอบจริง ก็เครียดอีก 4 วัน แล้วคอยดูกันต่อไป

อันนี้คือรางวัลครับผม พัดลม 1 ตัว 

วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

8 ต.ค. 53

วันนี้เป็นวันสารทไทย
ต้องลงศาลา เห็นว่าวันนี้มีกิจกรรมเยอะแยะ เด๋วต้องดูว่ามีอาไรบ้าง
ตอนนี้น้องไพก็ยังสอบอยู่ กลับดึกทุกคืน ได้พ่อเค้าไปรับ ไม่ได้รับด้วยตัวเอง
ไว้รอสึกก่อน ตอนนี้ก็ต่างคนก็ดูหนังสือกันอย่างเข้มข้น ไพก็อ่านหนังสือกฏหมาย
หลวงพี่ก็อ่านธรรมวิภาค ก็สนุกไป จำไม่ค่อยได้อ่ะ 55 ก็ต้องพยายามต่อไป เด๋วก็ได้เจอกัน
อีกอึดใจ จะไปเที่ยวซักที่ผ่อนคลาย แต่ก่อนอื่นต้องดูหนังสักรอบ ขอบรรยากาศเย็นๆ ให้ใจ
ชุ่มชื่นด้วยไอรักก่อน แล้วก็ค่อยหาที่เที่ยวกันต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

7 ต.ค.53

วันนี้หลังจากกับจากบิณฑบาต ก็กลับมาฉันเช้า หลังจากนั้นก็กลับมาที่กุฏิ
เห็นลูกหมาที่เลี้ยงไว้ นอนนิ่งๆ ก็เลยไปดู ปรากฏว่ามันไม่ค่อยขยับเลยมันกำลังจะตาย
ก็สะกิดมันก็ไม่กระดิกแล้ว และแล้วพอขึ้นบันได้มาตักข้าวเพื่อที่จะไปเลี้ยงน้องมะหมา
ตัวที่ดูตะกี้ก็ร้อง แอ้ค ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แล้วก็มีน้ำเหลืองออกจากทวาร แล้วมันก็ตายในที่สุด
ก็เลยจับใส่ถุงพลาสติก เอาไปฝังที่ฝั่งโรงเรียน ขุดพอประมาณแล้วก็ใส่ไว้ในดินแล้วก็ฝัง
เป็นการเห็นครั้งสุดท้าย น่าสงสารแต่ทำไรไม่ได้ ไม่รู้มันเป็นอาไร ป่านนี้ก็ไปเกิดใหมแล้วมั้ง
ตอนเย็นก็ มีน้องหมาตัวเมียก็นอนนิ่งๆเหมือนกัน เกือบตาย ยุงกัดรอบขอบตาเลย สะกิดก็ไม่ขยับ
ต้องลุ้นไม่ให้ตาย บอกมันว่าอย่าตายนะ แล้วก็ไล่ยุงให้ นึกว่าตายซะแล้วไม่ขยับเลย ตอนหลังให้
นอนในกรงที่มุ้งครอบ สัก ชั่วโมงไปดู ค่อยยังชั่ว มันเริ่มกระดุกกระดิกตัวโชว์หัวผงก แล้วก็เลย
คุยกับมันว่าให้รอด แล้วตอนเช้าก็รอด ค่อยดีขึ้นหน่อย น้องหมารอดตายแล้ว เกือบไป ตอนนี้จาก
5 ตัว ก็เลยเหลือ 4 ตัว มี ตัวผู้ 3 ตัวเมีย 1 ตัว ก็ผ่านไปอีกวัน

วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

6 ต.ค. 2553

วันนี้บำเพ็ญประโยชน์ให้วัด โดยหลังจากฉันเช้าเสร็จก็ลงมาแล้วก็ไปเลี้ยงข้าวหมา
ตัวเล็กๆ และตัวใหญ่ด้วยๆ ปนๆกัน หลังจากนั้นล้างจานเรียบร้อยก็ พักแป้ปนึง
แล้วก็มีการขอแรงพระไปช่วยกันขนดิน ช่วงเช้าขนดินกันเละเทะเลย สบงเปื้อนเลย
ช่วงบ่ายก็ขนทรายแทน ช่วยกันหลายๆองค์ เพลียเลยวันนี้ บ่ายก็ไปช่วยเขายกกระป๋อง
สังฆทานอีก ที่บนศาลา แล้วพอดีว่าชุดเปื้อนด้วยก็เลยแช่ผ้าไว้ แล้วก็ไปสรงน้ำ แต่ลง
ไปโบสถ์ไม่ทันหรอก เพราะยังไม่ได้พับจีวรไว้ ก็เลยจัดการแช่ผ้าไว้ 1 ช.ม. แล้วก็ขึ้นมาบนห้อง
จุดธูปเทียน ทำวัตรเย็นไปพร้อมกับที่อยู่ที่โบสถ์แต่เสร็จก่อน 10 นาที เพราะไม่ได้รอ แต่ก็เป็น
บทสวดมนต์เดียวกัน เดาหน้าถูกอ่ะ ก็สวดเสร็จ จึงไปซักผ้าต่อ 5 ชุด อาไรมันจะเยอะขนาดนี้วันนี้
ก็จำวัดสบายเลย ง่วงๆ ก็หมดไปอีก 1 วัน

วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

5 ต.ค.2553

วันนี้ตอนเช้าฝนไม่ตก แต่ตกไปเมื่อคืน ตอนนี้ก็ใกล้สอบนักธรรมตรีขึ้นไปทุกวันแล้ว
ก็อ่านบ้างทำอย่างอื่นบ้างไปตามปกติ เช้าๆก็ทำกิจตามปกติ ไปบิณฑบาตร แต่ออกช้า
วันนี้มัวแต่รัดหนังยางอยู่นิดหน่อย หลังจากทำวัตรเย็นเสร็จก็กลับมาแล้วก็เตรียมตัวสรงน้ำ
ก็เริ่มเห็นปริมาณน้ำแล้วปริ่มๆ แต่เวลา สองทุ่มกว่าๆ น้ำก็เยอะขึ้นจนท่วมพื้นเรียบร้อย
แล้วตอนนี้ก็เริ่มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว กุฏิใครเตี้ยตอนนี้ต้องเตรียมตัวกันแล้วเพราะน้ำจะนองพื้น
ตอนนี้ลูกหมา ปลอดภัย มันเอาตัวรอดไปนอนบนไม้ที่วางไว้หลายๆชั้น เมื่อกี้ก็ไปสำรวจหน้าวัดมา
ก็พบว่าน้ำจากท่อสูงขึ้นจะมาบรรจบกับน้ำจากแม่น้ำ ถนนเริ่มเปียกแล้ว ก็เห็นจนชินแล้ว เพราะ
บ้านก็ห่างจากวัดไม่ไกล แต่ยังไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเพิ่มขนาดไหน ก็ต้องติดตามต่อไปว่าจะทำอย่างไรกันต่อ
ระหว่างพระ คน หมา และ แมว เหมียวๆ

วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันนี้ 4 ต.ค. 2553

วันนี้ไม่มีไรมาก เลี้ยงหมา เลี้ยงแมว
อาบน้ำให้หมาตอนเที่ยงๆ
ทำวัตรเช้าเย็น
แล้วก็อ่านหนังสือบ้างนิดหน่อย
แล้วก็จำวัด

วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

14 ก.ย. 2553

วันนี้ฟังระฆังจากวัดลานตากฟ้าเอา แล้วก็ตื่นไปสรงน้ำ
เย็น หนาวๆ เลย แต่ก็เสร็จทัน ใช้เวลาต่อวัน 15-20 นาที
วันนี้ไปบิณฑบาตรมา แล้วกลับมาฉันที่หอฉัน
แต่ตอนกลางวันก็ฉันข้างบน ตอนเย็นฝนตกหนักฟ้าร้องด้วย
นึกว่าไม่ได้ไปทำวัตรเย็นซะแล้ว แต่ก็ไปกับหลวงตาบัวอ่ะ
กลางร่มฝ่าสายฝนไป ก็เลยนั่งสวดใส่ไมค์ด้วย พอดีพระเอเอา
ไมค์มาให้ช่วยกันคนละเสียง ก็ดังเอง แล้วก็กลับมาอย่างปลอดภัย
กลับมาก็รีบท่อง ธรรมวิภาค โอ้ย ปวดหัว ท่องไม่จำเลยแค่หน้าเดียว
ยังทั้งวันเลยปวดหัวได้ใจ โด้ฟนมแลคตาซอยก็ยังไม่ดี ไข่ 3 ลูกก็ยัง
เหนื่อยใจเลย แต่ก็พอจะได้ พอเดินไป ไฟมืดหมดเลยฝนตกเรื่อยๆ
ก็เลยกลับมาสรงน้ำ เป็นอันว่าไม่ต้องท่อง พรุ่งนี้ค่อยท่องละกัน
ต้องติดตามตอนต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

12 ก.ย. 2553

วันนี้ตื่น ตี 4  สรงน้ำก่อนอันดับแรก
แล้วก็ห่มดองทำวัตรเช้า
หลังจากนั้นก็กลับมาห่มมังกรไปบิณฑบาตร
กลับมาฉัน ตอน เกือบ 7 โมงเช้าได้ แล้วก็สายๆ
ก็เดินไปเดินมา ก็ดูตารางไปฉันที่ข้างนอกตอน
10.00 น. วันนี้ก็เลยทำอาไรไม่ได้มาก พอถึงเวลาก็ไป
กลับมาก็ 11 โมงกว่าๆ แล้ว ก็เตรียมตัวไปเรียนนักธรรม
ตอนบ่ายครึ่ง แล้วก็กลับมาได้แป้ปนึง ก็ทำวัตรเย็นต่อ
แล้วก็จูนเครื่องปริ้นกับอัพเดตไวรัสที่ห้องสมุด จำนวน 2 เครื่อง
แล้วก็เจอสีกาไพ กับครอบครัวเค้า มาเยี่ยมเยียนหลวงพี่
ค่อยคึกคักหน่อย แค่นี้ก่อนและกัน

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

10 ก.ย. 2553

วันนี้ทำกิจปกติ
เริ่มปฏิบัติตัวถูกแล้ว
เมื่อวานโยมพ่อ และโยมแม่ และญาติของโยมพ่อก็นำอาหารมาเลี้ยงพระเพล
ส่วนโยมแม่ก็มา แล้วก็มาทุกวันพระด้วย ต้องหยุดงานมา เมื่อวานก็มีกับหลายอย่าง
ฝากหมาและแมวบ้างนิดหน่อย ก็พยายามตั้งใจทำบุญให้เต็มที่ นี่ก็เหลืออีกเดือนกว่าๆ
ก็จะขึ้นใกล้ออกพรรษาแล้ว น้ำหนักลดไปได้หน่อย แต่ไม่เยอะเท่าไหร่นัก ตั้งใจฉันน้อยๆ
แต่ให้ครบทุกอย่าง ๆ ละนิด อย่างละหน่อย พอเพื่ออยู่ ตอนนี้นั่งอยู่ห้องสมุดวัดสำโรง
เหตุการณ์ตอนเช้ายังปกติดี ตอนเช้าตี 4 ก็มาตีระฆังเพื่อปลุกทั้งวัดเลย ไม่รู้ตื่นกันหรือป่าว
ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเป็นพอ เมื่อตะกี้อ่านหนังสือเรียนไปหน่อย ตอนนี้ลงมานั่งเล่นคอมแป้ปนึง
เด๋วจะไปตีกลองเพลและอีก40 นาที ตอนนี้ก็แค่นี้ก่อนไว้ต่อบทความหน้านะครับ

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เหตุการณ์วันนี้ 20 ส.ค.53

เช้าตื่นสายไปหน่อยแต่ก็ยังลงโบสถ์ทัน วันนี้ไม่มีกิจนิมนต์ไปไหน
วันนี้เรียนวิชาพุทธประวัติ สนุกดี เรียนถึงพระพุทธเจ้าโปรดแสดงธรรมแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 แล้ว
มีการบ้าน 8 ข้อ
ทำวัตรเย็นเลิก 6 โมงเย็น
ท่องหนังสือตอน 1 ทุ่ม ท่องถึง โกสิยวรรค2 แล้ว ในวิชาวินัย

กิจวัตรพระ

กิจต่างๆ
1.ตี4 ลุกขึ้นสรงน้ำ
2.ตี4.45 เตรียมไปปลงอาบัติ
3.ตี5 เริ่มทำวัตรเช้า
4.ตี5.45 เตรียมเปลี่ยนแบบจีวรจากห่มดองเป็นห่มฟัก
5.เดินบิณฑบาตรระยะทางประมาณ 3 โลต่อวัน
6.กลับมาหอฉันให้ทันก่อน 07.00น.
7.ฉันเสร็จ 07.30 น. ลงมาล้างถ้วยล้างจาน
8.เกือบ 8.00 น.อ่านหนังสือต่อ
9.11.00 ขึ้นหอฉัน เพื่อฉันเพล
10.เตรียมเรียนตอน 13.30 น. - 16.30 น.
11.เตรียมทำวัตรเย็น 15.45 น.
12.เตรียมท่องหนังสือให้หลวงพ่อฟัง
13.หลังจากท่องเสร็จประมาณ 20.00 น.กว่าๆ ก็สรงน้ำแล้วก็ถึงจะส่วนตัวแล้ว ท้ายสุดก็จำวัดครับ

วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

29 กค 53

วันนี้ทำวัตรเสร็จแล้ว พรุ่งนี้ 30-1 ส.ค. 53 จะไปวัดเทพนิมิต ไป06.00 ถึงกี่โมงยังไม่รู้
แต่คงไปเหมือนปฐมนิเทศนักศึกษามั้ง วันนี้เท้าบวมหน่อย เดินบิณวัน2และ แต่ได้พัก 3 วัน
ก็มีความสุขดีตอนนี้ รอสักอาทิตย์หน้าคงจะแบ่งเวลาลงตัว ตอนนี้ยังทดลองงานก่อน
เด๋วว่างๆจะเขียนใหม่

วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันอาสฬหบูชา

วันนี้ขึ้นบนศาลา เพื่อไปทำกิจสงฆ์ด้วย ตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะมันสูง
แต่ก็สวดได้ตอนแรกๆ แต่หลังก็ต้องไปอ่านทบทวนใหม่อีกครั้งก่อน
ไม่งั้นก็จะแย่เอา วันนี้โยมไพและครอบครัวและโยมแม่โยมป้ามาทำบุญด้วย
ก็เลยได้พานพุ่มเยอะหน่อย ดีใจจังเลยมากันเยอะๆ ได้เห็นหน้าคาดตา

ประวัติดูด้านล่างนะ
วันอาสาฬหบูชา
ประวัติวันอาสาฬหบูชา วันอาสาฬหบูชา - วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ นับเป็นวันที่สำคัญในประวัติศาสตร์แห่งพระพุทธศาสนา คือวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาหรือหลักธรรมที่ทรงตรัสรู้ เป็นครั้งแรกแก่เบญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ณ มฤคทายวัน ตำบลอิสิปตนะ เมืองพาราณสี ในชมพูทวีปสมัยโบราณซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศอินเดีย ด้วยพระพุทธองค์ทรงเปรียบดังผู้ทรงเป็นธรรมราชา ก็ทรงบันลือธรรมเภรียังล้อแห่งธรรมให้หมุนรุดหน้า เริ่มต้นแผ่ขยายอาณาจักรแห่งธรรม นำความร่มเย็นและความสงบสุขมาให้แก่หมู่ประชา ดังนั้น ธรรมเทศนาที่ทรงแสดงครั้งแรกจึงได้ชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แปลว่า พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม หรือพระสูตรแห่งการแผ่ขยายธรรมจักร กล่าวคือดินแดนแห่งธรรม



เมื่อ ๒๕๐๐ กว่าปีมาแล้วนั้นชมพูทวีปในสมัยโบราณ กำลังย่างเข้าสู่ยุคใหม่แห่งความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองเฟื่องฟูทุกด้านและมีคนหลายประเภททั้งชนผู้มั่งคั่งร่ำรวย นักบวชที่พัฒนาความเชื่อและ ข้อปฏิบัติทางศาสนา เพื่อให้ผู้ร่ำรวยได้ประกอบพิธกรรมแก่ตนเต็มที่ ผู้เบื่อหน่ายชีวิตที่วนเวียน ในอำนาจและโภคสมบัติที่ออกบวช หรือบางพวกก็แสวงหาคำตอบที่เป็นทางรอกพ้นด้วยการคิดปรัชญาต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เหลือวิสัยและไม่อาจพิสูจน์ได้บ้าง พระพุทธเจ้าจึงทรงอุบัติในสภาพเช่นนี้ และดำเนินชีพเช่นนี้ด้วยแต่เมื่อทรงพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นขาดแก่นสาน ไม่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง แก่ตนเองและผู้อื่น จึงทรงคิดหาวิธีแก้ไขด้วยการทดลองต่าง ๆ โดยละทิ้งราชสมบัติ และอิสริยศแล้วออกผนวช บำเพ็ญตนนานถึง ๖ ปี ก็ไม่อาจพบทางแก้ได้ ต่อมาจึงได้ทางค้นพบ มัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลาง เมื่อทรงปฏิบัติตามมรรคานี้ก็ได้ค้นพบสัจธรรมที่นำคุณค่า แท้จริงมาสู่ชีวิต อันเรียกว่า อริยสัจ ๔ ประการ ในวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศก ๔๔ ปี ที่เรียกว่า การตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า จากนั้นทรงงานประกาศศาสนาโดยทรงดำริหาทางที่ได้ผลดีและรวดเร็ว คือ เริ่มสอนแก่ผู้มีพื้นฐานภูมิปัญญาดีที่รู้แจ้งคำสอนได้อย่างรวดเร็วและสามารถนำไปชี้แจงอธิบาย ให้ผู้อื่นเข้ามาได้อย่างกว้างขวาง จึงมุ่งไปพบนักบวช ๕ รูป หรือเบญจวัคคีย์ และได้แสดงธรรม เทศนาเป็นครั้งแรกในวันเพ็ญ เดือน ๘

ผลจากการแสดงปฐมเทศนา
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมแล้ว ปรากฏว่าโกณฑัญญะผู้เป็นหัวหน้าเบญจวัคคีย์ได้เกิดเข้าใจธรรม เรียกว่า เกิดดวงตาแห่งธรรมหรือธรรมจักษุ บรรลุเป็นโสดาบัน จึงทูลขอบรรพชาและถือเป็นพระภิกษุสาวก รูปแรกในพระพุทธศาสนา มีชื่อว่า อัญญาโกณฑัญญะ

ความหมายของอาสาฬหบูชา

พิธีกรรมที่กระทำในวันนี้ โดยทั่วไป คือ ทำบุญ ตักบาตร รักษาศีล เวียนเทียน ฟังพระธรรมเทศนา (ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร) และสวดมนต์ ดังนั้นในวันนี้จึงถือว่า พุทธศาสนิกชนควรได้รับประโยชน์ ที่เป็นสาระสำคัญจากอาสาฬหบูชา กล่าวคือ ควรทบทวนระลึกเตือนใจสำรวจตนว่า ชีวิตเราได้เจริญงอกงามขึ้นด้วยความเป็นอยู่อย่างผู้รู้เท่าทันโลกและชีวิตนี้บ้างแล้วเพียงใด เรายังดำเนินชีวิตอยู่อย่างลุ่มหลงมัวเมา หรือมีจิตใจอิสระปลอดโปร่งผ่องใสบ้างแล้วเพียงใด

“อาสาฬหบูชา” (อา-สาน-หะ-บู-ชา/อา-สาน-ละ-หะ-บู-ชา) ประกอบด้วยคำ ๒ คำ คือ อาสาฬห (เดือน ๘ ทางจันทรคติ) กับบูชา (การบูชา) เมื่อรวมกันจึงแปลว่า การบูชาในเดือน ๘ หรือการบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในเดือน ๘ หรือเรียกให้เต็มว่า อาสาฬหบูรณมีบูชา

โดยสรุป วันอาสาฬหบูชา แปลว่า การบูชาในวันเพ็ญ เดือน ๘ หรือ การบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในวันเพ็ญ เดือน ๘ คือ

๑. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา

๒. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเริ่มประกาศพระศาสนา

๓. เป็นวันที่เกิดอริยสงฆ์ครั้งแรกคือการที่ท่านโกณฑัญญะรู้แจ้งเห็นธรรม เป็นพระโสดาบัน จัดเป็นอริยบุคคลท่านแรกในอริยสงฆ์

๔. เป็นวันที่เกิดพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา คือ การที่ท่านโกณฑัญญะขอบรรพชาและ ได้บวชเป็นพระภิกษุ หลังจากฟังปฐมเทศนาและบรรลุธรรมแล้ว

๕. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงได้ปฐมสาวกคือ การที่ท่านโกณฑัญญะนั้น ได้บรรลุธรรม และบวชเป็นพระภิกษุ จึงเป็นสาวกรูปแรกของพระพุทธเจ้า



เมื่อเปรียบกับวันสำคัญอื่น ๆ ในพระพุทธศาสนา บางทีเรียกวันอาสาฬหบูชา นี้ว่า วันพระสงฆ์ (คือวันที่เริ่มเกิดมีพระสงฆ์)



ที่มาจาก

http://www.dhammathai.org/day/asarahabucha.php

วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การแสดงความคิดเห็น

การแสดงความคิดเห็น ใส่บทความที่ชื่นชอบ
1.ต้องไปสมัคร อีเมล ของ gmail เสียก่อน
2.พิมพ์ข้อความแล้ว ส่งความคิดเห็น
3.เลือกประเภทโปรไฟล์ เป็น google เพื่อเข้าสู่บัญชี อีเมล์เราที่ใช้ อีเมล์ของ gmail เช่น topjunk@gmail.com
4.หลังจากนั้นก็ล็อกอินแล้วก็สามารถส่งข้อความมาคอมเม้นต์กันได้
5.ที่ทำแบบนี้น่าจะเกี่ยวเรื่องว่า ใครโพสต์ไม่ดีได้ตามตัวถูก จากอีเมล์ผู้โพสต์ไว้นะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันพฤหัส22กค53

วันนี้ต้องออกบิณฑบาตรด้วย
แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะไปที่ไหนทางไหนอย่างไร
ถ้ารู้อย่างไรแล้วจะบอกอีกทีและกัน
ช่วงเช้าหลังจากบิณฯแล้วก็จะฉัน 07.00 น.และต่อจากนั้น ก็เตรียมไปทำวัตรเช้าก่อน 8.00 เลิกประมาณ 8.30 น. หลังจากนั้นก็จะเป็นการท่องตำราสวดมนต์ถึงก่อนเพล 11.00 เสร็จกิจ 11.30น.แล้วก็นั่งท่องตำราต่อถึง เกือบ 16.00 น. แล้วหลังจากนั้นก็ไปทำวัตรเย็น ถึง 17.00 น.หรือ 5 โมงเย็นโดยประมาณ แล้วซัก 6 โมงเย็นก็สรงน้ำ ประมาณ 1 ทุ่มครึ่งโดยประมาณต้องไปท่องให้เจ้าอาวาสฟัง บทสวดถวายพรพระ พาหุงฯ ตอนนี้ได้วันละ 4 บรรทัด โดยประมาณ เสร็จประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ ก็จำวัดยาวเลย
กิจก็มีประมาณนี้แหล่ะ มีอาไรมากกว่านี้จะบอกอีกทีนะโยม

วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันพุธ21กค53

ตอนนี้นั่งอยู่ห้องสมุดวัด
ทุกอย่างเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น
แล้วก็เริ่มจะพอแบ่งเวลาดีขึ้นแล้ว
หัดห่มจีวรอยู่ได้ 4 แบบแล้ว แต่ยังห่มยากอยู่
ตอนนี้สบายดี แต่ร้อนไปหน่อย งานหลักคือ
ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น ท่องหนังสือ เหนื่อยนิดๆแต่
พอได้อยู่

วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

20 กค 53

ตอนนี้พี่คงอยู่วัดสำโรง อ่ะนะ คงกำลังมีจิตใจที่สงบ
เพราะติดแม่น้ำ ลมมันเย็น 55

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

19 กค 53

วันนี้ ที่พี่เขียนคือวันที่ 14 กค 53 แต่วันในเครื่องและตามเวลาโลกคือ 19 กค 53 เป็นวันที่ 2 ของการบวช
จำไว้ว่าตัวเองต้องกินข้าวให้ครบ 3 มื้อนะจำไว้ เด๋วเป็นโรคกระเพาะ

วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

18 กค 53

วันนี้ตอนเช้า วนรอบโบสถ์ วัดสำโรง แล้วก็เข้าพิธีบวช
ตามประเพณี วันนี้คงต้องจากน้องไพ ไปอยู่วัด 3 เดือน
ก็ยังอดคิดถึงไม่ได้ แล้วก็ไม่เคยลืมกัน แต่พี่ก็จะทำให้ดีที่สุด
รักนะ

วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

17 กค 53

วันนี้ตอนเย็น คงต้องมีงานกินเลี้ยง แล้วผู้คนก็จะมารับประทานกันมากๆ
ทั้งสุดที่รักของท๊อปแล้วก็เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หวังว่าจะอิ่มกันทุกๆคน

วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

16 กค 53

วันนี้วันศุกร์ แล้ว คงใกล้แล้วต้องเตรียมภารกิจให้พร้อม
เตรียมรับวันใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

15 กค 53

วันนี้คงต้องไปวัด ยังไม่รู้เลยจะไปทำอาไรบ้าง
แต่ที่รู้ก็คือเริ่มนับถอยหลังแล้ว

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

14 กค 53

วันนี้ทำงานเป็นวันสุดท้าย
เพราะว่าใกล้บวชแล้ว
ต้องเตรียมตัวท่องบทสวดมนต์
วันนี้ยังไม่ได้เจอที่รักเลย คิดถึงจัง

ข้อดีข้อเสียของการทำ System Restore

ข้อดี
1.ช่วยเราเมื่อเครื่องมีอาการผิดปกติ เราสามารถย้อนเวลากลับไปสู่วันปกติ
2.ช่วยเราเมื่อลงโปรแกรมผิดพลาด ณ ปัจจุบัน แล้วเครื่องมีปัญหา เราก็ย้อนเวลากลับไปสู่ก่อนลงโปรแกรมได้
3.เมื่อย้อนเวลากลับ รับรองได้ว่าเอกสาร เช่น งานที่พิมพ์ไว้ในword งานที่พิมพ์ไว้ในexcel จะยังถูกเก็บไว้เหมือนเดิมไม่หาย สบายใจได้

ข้อเสีย
1.ถ้าเราเล่นเกมส์ที่เซฟไว้เมื่อปัจจุบัน เมื่อเราย้อนเวลาไปแล้ว ช่วงเวลาที่เราเซฟไว้ก็จะย้อนไปด้วย
2.โปรแกรมที่เราลงไว้ปัจจุบัน อาจมีผลให้ โปรแกรมที่ถูกติดตั้งปัจจุบันมองว่าไม่ถูกติดตั้งด้วย

วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ทางเลือกของการเขียนแผ่นบน win7

ปกติแล้วเราสามารถเขียนแผ่นซีดี หรือ ดีวีดีในวินโดวส์ทั่วๆ ไปได้ไม่มีปัญหา
แต่ที่ผมพบคือ ลงโปรแกรม nero กับ windows 7 แล้วมีปัญหาคือเขียนแผ่นไม่ได้
วันนี้เลยมีทางเลือกสำหรับการเขียนแผ่น ซีดี หรือ ดีวีดี โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม nero
หากใครสนใจ ก็สามารถคลิกดาวน์โหลดได้เลยครับ
ดาวโหลดโปรแกรมสำหรับการ Write แผ่น

วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เทคนิคการแปลภาษาต่างประเทศ

ขั้นตอน
1.เปิดเว็บบราวเซอร์ขึ้นมา
2.พิมพ์ www.google.com
3.แล้วเลือกแท็บลิงค์ แปลภาษา
4.เลือกภาษา ตัวอย่างเช่น
4.1 ภาษาไทย ลำดับที่ 1
4.2ภาษาอังกฤษ ลำดับที่ 2
5.พิมพ์ข้อความจะแปลลงในช่องรับข้อความ เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ
6.หรือที่ http://translate.google.co.th/?hl=th&tab=wT#

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การเปลี่ยนสลับหน้าต่างใน win 7

กด ปุ่มในคีย์บอร์ดสัญลักษณ์ Windows + ปุ่ม Tab


"+"

การเรียก scan บน win7 เพื่อเชื่อมกับเครื่องปริ้นเตอร์

วิธีทำก็คือ คลิก start--> search --> พิมพ์ว่า scan --> แล้ว Enter
ก็จะพบกับโปรแกรมสแกนที่ใช้สั่งงาน กับเครื่อง scan แล้วครับ

วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ความรัก

เรื่องของความรัก ตอน 1
วันนี้ฉันได้มีความสุขกับคนที่รัก ในการที่จะไปรับไปส่งและก็ได้อยู่ใกล้ๆกัน มีเธอมีฉันทุกๆวัน